เตรียมความพร้อมก่อนซื้อรถ EV

มือใหม่ที่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้!

31 มกราคม 2567
รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV ในช่วงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2022 และยิ่งมีความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามาทำการตลาดที่ไทยในปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากการที่รถประเภทนี้ถูกพัฒนามาเพื่อลดการใช้พลังงานน้ำมันแล้ว การใช้รถ EV ยังถือว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

 

ทำให้เกิดการครอบครองรถ EV มากขึ้นในปัจจุบัน และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ประกันภัยไทยวิวัฒน์มาพร้อมข้อมูลดีๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหา หรืออยากซื้อรถ EV เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะทำการซื้อรถ EV มาเช็กกันเลย

 

เช็กก่อนซื้อ EV-01 1.png

 
1. เตรียมระบบไฟในบ้าน เพื่อติดตั้งเครื่องชาร์จไฟ

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้านั้นเปรียบเสมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้นที่ใช้ไฟฟ้า และมีกำลังโหลดที่ค่อนข้างเยอะ จึงควรเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมเพื่อรองรับการชาร์จไฟ โดยการเปลี่ยนขนาดของมิเตอร์หรือการขอมิเตอร์นั้นต้องติดต่อไปที่การไฟฟ้า และต้องเปลี่ยนขนาดของสายไฟ ติดตั้งสายดินและตู้คอนซูมเมอร์ในยูนิตที่ต้องได้มาตรฐานตามที่การไฟฟ้ากำหนด

 

2. เลือกเครื่องชาร์จ ที่มีขนาดเหมาะสม

ส่วนใหญ่เมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ก็มักจะได้เครื่องชาร์จแบบติดผนังมาเป็นของแถม ซึ่งเครื่องชาร์จที่แถมมาให้นั้นก็จะมีขนาดกำลังไฟที่พอเหมาะกับรถที่ซื้ออยู่แล้ว แต่สำหรับรถบางรุ่นที่ไม่แถมเครื่องชาร์จแบบติดผนังมาให้ หากมีความจำเป็นต้องซื้อมาติดตั้งเอง ต้องดูก่อนว่ารถที่ซื้อนั้นรองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ (AC) กี่ kWh สมมติว่ารถรองรับ 6.6 kWh ก็ซื้อเครื่องชาร์จ ขนาด 7 kWh หรือ 11 kWh ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว 

 

3. เตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องชาร์จ

เนื่องจากช่องชาร์จของรถไฟฟ้าแต่ละรุ่น อาจอยู่คนละตำแหน่งกัน เช่น MG ZS EV ช่องชาร์จไฟอยู่ด้านหน้า ,MG4 ช่องชาร์จไฟอยู่ด้านหลังฝั่งซ้าย, Mini Cooper SE ช่องชาร์จไฟอยู่ด้านหลังฝั่งขวา หากติดเครื่องชาร์จผิดตำแหน่ง อาจทำให้ลำบากตอนชาร์จไฟ และถ้าเป็นไปได้ควรติดตั้งเครื่องชาร์จเอาไว้ในที่ที่มีหลังคา เพื่อป้องกันแสงแดดและน้ำ จะได้ไม่เสื่อมสภาพไว

 

4. เช็กรุ่นรถที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

ก่อนจะเลือกรุ่นหรือแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้านั้น ต้องรู้จักพฤติกรรมการใช้รถของเราให้อย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ใช้รถทุกวัน ใช้รถตามโอกาส ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรถยนต์ไฟฟ้าก็วิ่งได้ระยะทาง 300 กม. ขึ้นไปนั่นเอง รวมไปถึงการตรวจสอบจุดชาร์จไฟฟ้าของรถอีกด้วย

 

 

เตรียมความพร้อมเพื่อจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ประกันภัยรถยนต์นั่นเอง ประกันภัยไทยวิวัฒน์ล่าสุดได้เปิดตัว ประกันรถเปิด รถ EV เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม รองรับกระแสรถยนต์ EV ชูจุดแข็ง “ความคุ้มค่า” “คุ้มครองครบตลอด 24 ชั่วโมง” ช่วยประหยัดสูงสุดถึง 60% ด้วยค่าเบี้ยประกันภัยชั้น 1 รถยนต์ EV เริ่มต้นเพียง 6,600 บาท  สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.thaivivat.co.th/campaign/prepaid หรือโทร 02-200-7000

Share: