ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน

7 ข้อควรทำ เพื่อความปลอดภัยขณะขับรถยามฝนตก

30 มิถุนายน 2566

 

สภาพอากาศในช่วงฝนตก นอกจากจะสร้างความน่ารำคาญและความไม่สะดวกให้กับผู้สัญจรไปมาบนท้องถนน ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางเนื่องจากพื้นผิวถนนที่ลื่น น้ำท่วมขัง รวมไปถึงทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงจากฝนตกอีกด้วย

 

 

จะดีกว่าไหม หากเราป้องกันได้ด้วยการเตรียมตัว เตรียมพร้อมกับ 5 ข้อควรทำ เมื่อขับรถช่วงหน้าฝนอย่างปลอดภัย ไกลอุบัติเหตุและถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ  

 

 

 

tvi-how-to-drive-safety-in-rainy-seasons

 

 

 

 

1. ไม่ควรขับรถเร็ว ข้อแรกนี้ถือเป็นความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่รถทุกคันควรยึดถือและปฏิบัติตาม เนื่องด้วยพื้นผิวถนนที่เปียก มีโอกาสเสี่ยงที่ทำให้รถเสียหลักได้ นอกจากนี้การขับรถเร็วอาจทำให้น้ำกระเด็นใส่ผู้อื่นจนเกิดความเดือดร้อน ถือเป็นโทษทางกฎหมายอีกด้วย

 

 

 

2. ไม่ควรขับรถตีคู่รถคันใหญ่ เพราะหากอยู่ในพื้นที่ๆ ฝนตกและมีน้ำท่วมขัง อาจถูกคลื่นน้ำจากรถคันใหญ่สาดเข้าใส่กระจกหน้ารถ จนบดบังทัศนวิสัย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ และหากถูกคลื่นน้ำสาดใส่กระจก ก็ไม่ควรเบี่ยงหลบ แต่ควรจับพวงมาลัยให้มั่น พร้อมบังคับรถให้อยู่ในเส้นทาง

 

 

 

3. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้ามากเกินไป โดยทั่วไป หากกำลังขับตามกันด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้เว้นระยะจากคันหน้า 40 เมตร แต่ถ้าสภาพถนนไม่ดี ยางล้อรถเก่า หรือมีฝนตกหนักให้เพิ่มระยะห่างเป็นสองเท่า เนื่องจากช่วงที่ฝนกำลังตก อาจเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน จึงควรมีระยะเบรกได้ทันเวลา  

 

 

 

4. ให้สัญญาณไฟล่วงหน้าขณะเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยวรถ ที่สำคัญไม่ควรเปลี่ยนเลนกะทันหัน เพราะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายได้ทุกเมื่อ

 

 

 

5. ไม่เหยียบเบรกกะทะหัน เพราะยิ่งฝนตก ส่งผลให้่พื้นถนนลื่น เมื่อเหยียบเบรกอย่างแรงจะทำให้รถเสียการทรงตัว ลื่นไถลออกนอกเส้นทางได้ โดยเฉพาะรถที่ไม่มีระบบ ABS

 

 

 

6. ห้ามเปิดไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้รถคันอื่นเกิดความสับสนหรือตาพร่ามัวจากแสงไฟ และหากรถหลายคันเปิดไฟฉุกเฉินพร้อมกัน จะยิ่งทำให้กะระยะได้ยาก จนเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นหากฝนตกให้ใช้วิธีเปิดไฟหน้ารถตลอดเวลาแทน

 

 

 

 

7. เพิ่มความระมัดระวังและหมั่นสังเกตเส้นทางรอบข้างให้มากขึ้น ทั้งการมองถนน เส้นทาง สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่สำคัญเมื่อต้องขับผ่านเส้นทางที่มีแอ่งน้ำหรือมีน้ำขังควรลดความเร็ว เพื่อป้องกันรถเหินน้ำและลื่นไถล

 

 

 

 

นอกจากช่วงเทศกาลแล้ว ฤดูฝนถือเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและมากที่สุด หากผู้ขับขี่รถไม่มีความระมัดระวัง ก็ยิ่งทำให้เกิดเหตุไม่คาดคิดได้ง่าย นอกจาก 7 ข้อข้างต้นแล้ว การใจเย็นไม่รีบร้อนขณะขับรถ หากฝนตกหนักก็หยุดรถหาที่พักรถก็ช่วยให้เราเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยแน่นอน  

 

 

 

อีกสิ่งที่สำคัญก็คือประกันภัยรถยนต์ เพราะถึงแม้เราจะดูแลรถอย่างเต็มที่ แต่ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุแล้ว ก็สามารถเกิดขึ้นได้โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อนได้ การมีประกันภัยรถยนต์ถือว่าช่วยคุ้มครองทั้งรถและผู้เอาประกันได้อีกทาง หรือใครที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มค่า และให้ความคุ้มครองครบ ประกันภัยไทยวิวัฒน์มีประกันภัยรถยนต์ที่ตอบทุกความต้องการของทุกท่าน  

 

 

 

พิเศษ! โปรโมชันดีๆ ต้อนรับลูกค้าใหม่ Double Deal คุ้มครอง 2 ปี คุ้มค่า 2 เท่า รับทันที! 2 ต่อ เมื่อซื้อประกันรถเปิดปิด แบบ Top-up แผน 2 ปี (730วัน) ประเภทความคุ้มครอง ชั้น 1,2+,3+ ครั้งแรก รายละเอียด คลิก   https://www.thaivivat.co.th/th/promotion/top-up-double-deal.php   หรือโทร 02-200-7000 

 

Share: