ผู้มีรถควรรู้! ทำประกันรถยนต์แบบระบุชื่อ ผู้ขับขี่จะได้รับส่วนลดเพิ่ม

เริ่มต้นแล้ว เมื่อทำประกันภัยรถยนต์แบบ “ระบุชื่อผู้ขับขี่” จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยจากพฤติกรรมผู้ขับขี่เพิ่มเติม

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ปรับปรุงเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สำหรับรถใช้งานส่วนบุคคล หากมีการระบุชื่อผู้ขับขี่จะนำพฤติกรรมการขับขี่มาใช้เป็นปัจจัยในการคำนวณค่าเบี้ยประกันภัย เพื่อเป็นส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมการขับขี่ดี และส่งเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น

เปรียบเทียบเกณฑ์เก่า VS เกณฑ์ใหม่

ทำไมต้องระบุชื่อผู้ขับขี่?

ระบบประกันภัยแบบเก่าเป็นการคำนวณเบี้ยโดยอิงเฉพาะตัวรถ ไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงผู้ขับขี่ที่แท้จริง ทำให้ผู้ที่ขับดีและไม่ดีจ่ายเบี้ยเท่ากัน เกณฑ์ใหม่จึงปรับให้ผู้ขับขี่ มีพฤติกรรมการขับรถอย่างปลอดภัยและจ่ายเบี้ยประกันอย่างยุติธรรมมากขึ้นด้วย

ข้อควรรู้!

กรณีที่กรมธรรม์ดังกล่าวระบุชื่อผู้ขับขี่ หากเกิดอุบัติเหตุโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ได้ถูกระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์นั้น จะต้องรับผิดชอบจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรกเป็นจำนวน ดังนี้
•    ขั้นต่ำ 2,000 บาท สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณี
•    ขั้นต่ำ 6,000 บาท สำหรับความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย 

รายละเอียดการระบุชื่อผู้ขับขี่

ผู้เอาประกันสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ สูงสุด 5 คน ต่อกรมธรรม์ โดยผู้ขับขี่ 1 คน สามารถระบุชื่อเป็นผู้ขับขี่ของรถกี่คันก็ได้ ทั้งนี้ หน้าตารางกรมธรรม์จะสามารถระบุชื่อได้ไม่เกิน 2 คน สำหรับกรณีระบุชื่อผู้ขับขี่เกิน 2 คนขึ้นไป บริษัทประกันภัยจะระบุชื่อผู้ขับขี่ทั้งหมดไว้ในเอกสารแนบท้าย

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องแจ้ง ได้แก่ :
•    ชื่อ – นามสกุล
•    เลขบัตรประชาชน 
•    เลขที่ใบอนุญาตขับขี่ 
•    ระดับพฤติกรรมการขับขี่

ส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์

1.ระดับพฤติกรรมการขับขี่

การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์รถยนต์ส่วนบุคคลภาคสมัครใจ จะช่วยให้บริษัทประกันสามารถคำนวณเบี้ยประกันตามความเสี่ยงที่แท้จริงได้ โดยกำหนดระดับพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละคนเป็น 5 ระดับ ดังนี้

 

ในปีแรกเริ่ม ทุกคนจะมีระดับพฤติกรรมการขับขี่เริ่มที่ระดับ 1 หากผู้ขับขี่ไม่มีการเกิดเหตุจากความประมาทในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่จะเพิ่มขึ้น 1 ระดับ ดังนี้

•    ผู้ขับขี่ไม่มีเคลมในรอบ 1 ปี ➝  เพิ่มเป็นระดับ 2 เบี้ยลดลง 10%ของเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน
•    ผู้ขับขี่ไม่มีเคลมในรอบ 2 ปี ➝  เพิ่มเป็นระดับ 3 เบี้ยลดลง 20%ของเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน
•    ผู้ขับขี่ไม่มีเคลมในรอบ 3 ปี ➝  เพิ่มเป็นระดับ 4 เบี้ยลดลง 30%ของเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน
•    ผู้ขับขี่ไม่มีเคลมในรอบ 4 ปี หรือมากกว่านั้น ➝  เพิ่มเป็นระดับ 5 เบี้ยลดลง 40%ของเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน
หากผู้ขับขี่มีการเกิดเหตุจากความประมาทในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่จะกลับไปอยู่ที่ระดับ 1
ทั้งนี้ กรณีมีการระบุชื่อผู้ขับขี่มากกว่า 1 คน กรมธรรม์นั้นจะนำระดับพฤติกรรมการขับขี่ที่น้อยที่สุดมาใช้ในการคำนวณเบี้ยประกันภัย
 

การตรวจสอบระดับพฤติกรรมผู้ขับขี่

ผู้เอาประกันสามารถตรวจสอบระดับพฤติกรรมการขับขี่ได้เองจาก LINE Official Account “คปภ. รอบรู้”(@OICConnect) หรือ แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยวิธีการตรวจสอบระดับพฤติกรรมเป็น ดังนี้

-    LINE Official Account “คปภ. รอบรู้
1.    เพิ่มเพื่อนด้วย ID Line @OICConnect หรือค้นหา “คปภ. รอบรู้” บน Line Application 
2.    กดปุ่มลงทะเบียนและยืนยันตัวตน รอการอนุมัติ
3.    เข้าไปที่หน้าหลักแล้วเลือกเมนู “ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ”
4.    เลือกเมนู “ส่วนลดตามระดับพฤติกรรมการขับขี่”
5.    ระบบจะแสดงระดับพฤติกรรมการขับขี่ตั้งแต่ระดับ 1-5
6.    หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมเลือกเมนู “รายละเอียดเพิ่มเติม” เพื่อดูข้อมูลการเรียกร้องค่าสินไหมในอดีต

-    Application “ทางรัฐ”
1.    ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบ Application “ทางรัฐ”
2.    เข้าเมนู “การเงิน/ประกัน” เลือก “OIC Gateway” 
3.    เลือก “ส่วนลดตามระดับพฤติกรรมการขับขี่”
4.    ระบบจะแสดงระดับพฤติกรรมการขับขี่ตั้งแต่ระดับ 1-5
5.    หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมเลือกเมนู “รายละเอียดเพิ่มเติม” เพื่อดูข้อมูลการเรียกร้องค่าสินไหมในอดีต

2.ส่วนลดประวัติดี (สำหรับลักษณะการใช้รถส่วนบุคคล)

สำหรับผู้เอาประกันที่ทำประกันภัยไว้ หากรถยนต์ไม่มีการเกิดเหตุจากความประมาทในรอบ 1ปีที่ผ่านมา บริษัทประกันจะให้ส่วนลดเบี้ยประวัติดีเพิ่มขึ้นตามลำดับขั้นสูงสุด 3 ขั้น หรือสูงสุด 40% ตัวอย่างเช่น กรมธรรม์มีการทำประกันปีแรกส่วนลดเบี้ยประวัติดี 0% ดังนั้นปีถัดไปจะได้รับส่วนลดดังนี้
•    รถยนต์ไม่มีเคลมในรอบ 1 ปี ➝ เพิ่มเป็นขั้นที่1 ส่วนลด 20% ของค่าเบี้ยประกันปีถัดไป
•    รถยนต์ไม่มีเคลมในรอบ 2 ปี ➝ เพิ่มเป็นขั้นที่2 ส่วนลด 30% ของค่าเบี้ยประกันปีถัดไป
•    รถยนต์ไม่มีเคลมในรอบ 3ปี หรือมากกว่านั้น ➝ เพิ่มเป็นขั้นที่3 ส่วนลด 40% ของค่าเบี้ยประกันปีถัดไป
หากมีการเกิดเหตุจากความประมาทอย่างน้อยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป และมีจำนวนเงินรวมกันเกิน 200 % ของเบี้ยประกันภัย ในรอบ1ปีที่ผ่านมา จะได้รับส่วนเพิ่มเบี้ยประกันภัยประวัติไม่ดีตามลำดับขั้น

 

สรุป ส่วนลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์

จากเดิม ส่วนลดประกันภัยรถยนต์คือ “ส่วนลดประวัติดี” เป็นรถที่มีประวัติดี ไม่มีการเกิดเหตุจากความประมาท โดยลดสูงสุด 4 ลำดับขั้น ส่วนลดเบี้ยสูงสุดถึง 50% แต่ในเกณฑ์ใหม่นี้ จุดประสงค์คือการมุ่งเน้นสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และส่งเสริมความปลอดภัย จึงมีปรับระบบส่วนลดโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนลดพฤติกรรมการขับขี่ สูงสุด 40% ของเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน และส่วนลดประวัติดีของรถยนต์ สูงสุด 40%
ทั้งนี้ส่วนลดดังกล่าวเป็นกรณีสูงสุด และขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทประกันภัย ควรสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขจากบริษัทประกันที่คุณเลือกอีกครั้ง
 

การเตรียมพร้อมสำหรับการทำประกันภัยรถยนต์ที่ต้องใช้สำหรับเกณฑ์ใหม่

1.    เตรียมรายชื่อผู้ใช้รถที่แท้จริงและสามารถตรวจสอบได้ 
2.    เตรียมข้อมูลผู้ขับขี่ที่ต้องระบุ 
3.    แจ้งข้อมูลกับบริษัทประกันภัย 
4.    คำนวณเบี้ยประกันภัย โดยปรึกษากับบริษัทประกันภัย 
5.    ตรวจสอบความถูกต้องของกรมธรรม์ก่อนลงนาม 
6.    อัปเดตรายชื่อผู้ขับขี่ 
7.    ขับขี่ปลอดภัยทุกครั้งเมื่อใช้รถ

จากการปรับเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ตามเกณฑ์ใหม่ปี 2568 ส่งผลดีต่อตัวผู้ใช้รถ เนื่องจากทำให้การทำประกันภัยรถยนต์มีความชัดเจนและโปร่งใส ผู้ที่ขับดี ไม่มีเคลมก็ได้ส่วนลดชัดเจน อย่างไรก็ตามผู้ใช้รถควรศึกษาทำความเข้าใจเงื่อนไขใหม่ หรือสามารถสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ของประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้ ที่ช่องทาง www.thaivivat.co.th หรือ โทร. 02-200-7000 

สามารถติดตามข่าวสาร สาระ ความรู้ และโปรโมชันของประกันภัยไทยวิวัฒน์ได้ทางเว็บไซต์ หรือช่องทาง Facebook, Line Official หรือแอปพลิเคชัน Thaivivat

ที่มา

https://www.sanook.com/auto/96408

https://www.sanook.com/auto/95995