เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ผู้ใช้รถหลายท่านมักเกิดความคิดในใจว่า ฝนมาอย่างนี้ เห็นทีจะให้น้ำฝนชะล้างสิ่งสกปรกแทนการล้างรถแบบปกติดีกว่า แต่รู้หรือไม่ ยิ่งฝนตก เรายิ่งต้องรักษาและดูแลทำความสะอาดรถยนต์ของเรามากยิ่งขึ้น เพราะอะไรนั้น ไทยวิวัฒน์มี 5 สาเหตุหลักๆ ที่เราต้องล้างรถมาฝาก
เพราะในน้ำฝนที่ตกลงมานั้น นอกจากน้ำแล้วยังรวมเอาก๊าซไอเสียจากรถยนต์ทั้งดีเซลและเบนซิน รวมถึงเขม่าจากการเผาทั้งโรงงานและการเผาป่า เกิดมลพิษลอยขึ้นในอากาศ แล้วเข้าไปทำปฏิกิริยากันในเมฆ จากนั้นก็ตกกลับมาเป็นฝนกรด มีฤทธิ์เป็นกรดมากกว่าน้ำดื่มทั่วไป เมื่อราดลงสีรถ ก็จะทำลายชั้นสีอย่างช้าๆ โดยที่เราไม่รู้สึกตัว หากทิ้งไว้จะกัดกร่อนสีของรถได้
ด้วยความที่ฝนตก ทำให้ผู้ใช้รถรู้สึกว่าจะรีบทำความสะอาดทำไม ค่อยทำทีเดียวตอนอากาศเป็นใจดีกว่า หารู้ไม่ว่า ยิ่งปล่อยให้คราบน้ำฝนฝังแน่นอยู่ที่รถ จะยิ่งทำให้ทำความสะอาดได้ยากกว่าเดิม
ฝนตก นอกจากจะมีเรื่องของคราบน้ำฝนแล้ว ยังมีเรื่องของความชื้นจากอากาศอีกด้วย ซึ่งความชื้นของฝนจะเข้าไปสะสมภายในรถ หากไม่รีบเช็ดทำความสะอาด ความชื้นเหล่านั้น ส่งผลทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เกิดสนิมได้
ถ้าจอดรถไว้ตรงที่ๆ มีต้นไม้ หรือเต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุม เศษใบไม้ที่ร่วงหลังฝนตกก็มักติดอยู่บนรถ หากทิ้งไว้จนแห้งอาจกลายเป็นคราบฝัง ที่ทำความสะอาดได้ยากและส่งผลต่อสีของรถอีกด้วย
นอกจากน้ำฝน เศษใบไม้แล้ว ก็ยังมีเรื่องของฝุ่นที่ปลิวด้วยแรงลมและฝนเข้ามาติดยังรถของเรา และยังไปเกาะตามซอกต่างๆ ภายในรถ หากทิ้งไว้ไม่รีบทำความสะอาด ฝุ่นเหล่านั้นจะเกิดเป็นคราบ ทำให้ทำความสะอาดได้ยากขึ้น
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหน รถที่เราใช้ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดเป็นประจำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการล้างรถด้วยตัวเอง หรือเข้ารับการล้างรถที่ศูนย์บริการชั้นนำ เพื่อรักษาและยืดอายุการใช้งานให้รถที่เราใช้เป็นประจำ
พิเศษ! เฉพาะลูกค้าประกันภัยไทยวิวัฒน์ รับสิทธิ์ล้างรถดีๆ ฟรี! กับ
1. โปรแกรมล้างรถมาตรฐานกับ Wizard (มูลค่า 140 บ.)
2. สิทธิ์ล้างรถ Quick Wash มูลค่า 99 บ.
หรือสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.thaivivat.co.th/motor/prepaid และโทรสอบถามได้ที่หมายเลข 02-200-7000